กฎของลูกเสือ คำปฏิญาณ คือ คำมั่นสัญญาที่ลูกเสือได้ให้ไว้แก่ผู้บังคับบัญชาต่อหน้าแถวในพิธีเข้าประจำ กอง หรือพิธีการของลูกเสือด้วยความจริงใจหรือสมัครใจ
การกล่าวคำปฏิญาณทุกครั้ง ลูกเสือควรตั้งใจกล่าวคำปฏิญาณด้วยความจริงใจ และต้องปฏิบัติตนตามคำปฏิญาณที่ได้กล่าวไว้ให้ได้ด้วย คำปฏิญาณมีดังนี้
“ด้วยเกียรติของข้า ข้าสัญญาว่า
ข้อ ๑ ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ข้อ ๒ ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ
ข้อ ๓ ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ”
กฎของลูกเสือ ความหมายของคำปฏิญาณทั้ง ๓ ข้อ
กฎของลูกเสือ ข้อ ๑ ข้าจะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ลูกเสือจะต้องมีความศรัทธา เชื่อมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ของตน เคารพเทิดทูนทั้ง ๓ สถาบันด้วยความซื่อสัตย์
ข้อ ๒ ข้าจะช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ ลูกเสือจะต้องประพฤติปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นในทุกโอกาส ทุกสถานการณ์ เท่าที่จะทำได้ โดยเริ่มตั้งแต่ครอบครัว จนถึงสังคมภายนอก
ข้อ ๓ ข้าจะปฏิบัติตามกฎของลูกเสือ ลูกเสือต้องปฏิบัติตนตามกฎ ๑๐ ข้อ ของลูกเสือซึ่งเป็นหลักยึดเหนี่ยวให้ลูกเสือปฏิบัติแต่สิ่งดีงาม
ลูกเสือควรปฏิบัติต่อชาติ ดังนี้
๑) ประพฤติตนเป็นพลเมืองดีหมั่นศึกษาหาความรู้ใส่ตัว
๒) ไม่ประพฤติตนผิดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และกฎหมายของบ้านเมือง
๓) เป็นผู้ประกอบอาชีพสุจริต มีความซื่อสัตย์
๔) รักและหวงแหนแผ่นดินถิ่นเกิดของตน เป็นผู้เสียสละและกล้าหาญ
ลูกเสือควรปฏิบัติต่อศาสนา ดังนี้
๑) ปฏิบัติกิจทางศาสนาตามจารีตประเพณีที่ตนนับถือด้วยใจบริสุทธิ์
๒) ปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาที่ตนนับถือ
๓) ไม่แสดงอาการลบหลู่ศาสนาอื่น
๔) ละเว้นการประพฤติชั่วกระทำแต่ความดี
๕) เข้าร่วมพิธีทางศาสนาตามเวลา และโอกาสอันควร
ลูกเสือควรปฏิบัติต่อพระมหากษัตริย์ ดังนี้
๑) แสดงความเคารพต่อพระองค์ท่าน และพระบรมฉายาลักษณ์
๒) ไม่กระทำการใดๆ ที่จะส่งผลให้เสื่อมเสียพระเกียรติคุณ และต้องช่วยป้องกันไม่ให้คนอื่นกระทำด้วยเช่นกัน
กฎของลูกเสือสามัญ
กฎ คือ ข้อกำหนดสำหรับเป็นแนวทางให้ลูกเสือนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันจนเกิดเป็นนิสัยประจำตัว
กฎของลูกเสือมี ๑๐ ข้อ ดังนี้
ข้อ ๑ ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้
ข้อ ๒ ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณ
ข้อ ๓ ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น
ข้อ ๔ ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคน และเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่งโลก
ข้อ ๕ ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย
ข้อ ๖ ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์
ข้อ ๗ ลูกเสือต้องเชื่อฟังคำสั่งของบิดา มารดาและผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ
ข้อ ๘ ลูกเสือมีใจร่าเริง ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก
ข้อ ๙ ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์
ข้อ ๑๐ ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ
ความหมายของกฎ ๑๐ ข้อ
ข้อ ๑ ลูกเสือมีเกียรติเชื่อถือได้ ลูกเสือจะต้องยึดมั่นในความซื่อสัตย์ ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา กระทำตนให้เป็นที่เชื่อถือและไว้วางใจได้
ข้อ ๒ ลูกเสือมีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และซื่อตรงต่อผู้มีพระคุณ ลูกเสือจะปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และยึดมั่นในความซื่อสัตย์ กตัญญูต่อผู้มีพระคุณทุกท่าน
ข้อ ๓ ลูกเสือมีหน้าที่กระทำตนให้เป็นประโยชน์และช่วยเหลือผู้อื่น ลูกเสือจะต้องพร้อมอยู่เสมอที่จะบำเพ็ญประโยชน์ และเป็นที่พึ่งแก่ผู้อื่นได้
ข้อ ๔ ลูกเสือเป็นมิตรของคนทุกคน และเป็นพี่น้องกับลูกเสืออื่นทั่วโลก ลูกเสือจะต้องมีใจโอบอ้อมอารี มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ทุกคน โดยไม่เลือเชื้อชาติ ศาสนา และปฏิบัติต่อเขาเหมือนญาติพี่น้อง
ข้อ ๕ ลูกเสือเป็นผู้สุภาพเรียบร้อย ลูกเสือจะต้องเป็นผู้มีกิริยาวาจาสุภาพ อ่อนโยน อ่อนน้อมมีความสัมมาคาราวะต่อบุคคลทั่วไป
ข้อ ๖ ลูกเสือมีความเมตตากรุณาต่อสัตว์ ลูกเสือจะต้องมีใจเมตตากรุณา สงสารสัตว์ ไม่รังแกหรือทรมานสัตว์ หรือเมื่อพบสัตว์บาดเจ็บต้องให้การช่วยเหลือ
ข้อ ๗ ลูกเสือ เชื่อฟังคำสั่งของบิดา มารดาและผู้บังคับบัญชาด้วยความเคารพ ลูกเสือจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งสอน คำชี้แนะ ของบิดามารดา ครูอาจารย์ และผู้บังคับบัญชาด้วยความเต็มใจ และเคารพ
ข้อ ๘ ลูกเสือมีใจร่าเริง ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ลูกเสือจะต้องมีความร่าเริง ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ ถึงแม้จะตกอยู่ในความยากลำบาก ก็จะไม่แสดงอาการย่อท้อให้เห็น
ข้อ ๙ ลูกเสือเป็นผู้มัธยัสถ์ ลูกเสือจะต้องรู้จักประหยัดทรัพย์ทั้งของตนเองและผู้อื่นไม่สุรุ่ยสุร่าย
ข้อ ๑๐ ลูกเสือประพฤติชอบด้วยกาย วาจา ใจ ลูกเสือจะต้องรู้จักสำรวม และระวังกาย วาจา ใจ ไม่ให้มีความอิจฉาริษยา มีความบริสุทธิ์ใจต่อทุกคน กฎของลูกเสือ